งาดำมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา บริเวณประเทศเอธิโอเปีย แล้วแผ่กระจายไปยังอินเดีย จีน และประเทศต่างๆในแถบเอเชียรวมถึงประเทศไทยด้วย ส่วนในประเทศอินเดียมีการระบุว่ามีการปลูกงามาแล้วหลายพันปี ก่อนที่พ่อค้าชาวอาหรับ และเมดิเตอร์เรเนียลจะนำงาไปปลูกแถบอาหรับ และ ยุโรป
นอกจากนี้ยังมีผู้พบหลักฐานว่า ชาวบาบิโลนในประเทศโซมาเลียมีการปลูกงามานานกว่า 2,500 ปี ก่อนคริสตกาล และใช้นํ้ามันงาสำหรับทำยา และอาหาร ซึ่งมีบันทึกใน Medical Papyrus of Thebes กล่าวว่า ทหารโรมันได้นำงาไปปลูกในประเทศอิตาลีในคริสศตวรรษที่ 1 แต่ปรากฏว่าสภาพภูมิอากาศไม่เหมาะกับการปลูก และในช่วงปลายศตวรรษที่17 และ18 มีการนำงามาปลูกในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยทาสชาวแอฟริกัน
ด้านการใช้ประโยชน์จากงาดำนั้นอินเดีย จีน และประเทศอื่นๆ ในแถบเอเซียจะใช้งาทำเป็นนํ้ามันเพื่อปรุงอาหาร ส่วนชาวยุโรปจะนำงามาทำเค้ก ไวน์ และนํ้ามัน รวมถึงใช้ในการปรุงอาหาร และเป็นเครื่องหอม ส่วนชาวแอฟริกันใช้ใบงาทำ ดอกไม้เพลิง และพอกผิวหนัง และใช้เป็นสารไล่แมลงให้สัตว์เลี้ยงเป็นต้น
ประโยชน์และสรรพคุณงาดำ
- ช่วยบำรุงร่างกาย
- ช่วยบำรุงผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ
- ช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุน
- แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ปวดบวม ลดการอักเสบ
- เป็นยาระบายอ่อนๆ
- ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
- ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
- ช่วยให้นอนหลับสบาย
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยชะลอความแก่
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร